
เปลี่ยนจาก “เนื้อสัตว์–ไข่–ชีส” มาเป็น “ผักใบ–เบอร์รี่–ถั่ว” อาจไม่ใช่แค่ดีต่อหัวใจ แต่ยัง ลดกรดสะสมในร่างกาย และ ลดน้ำหนักได้จริง
งานวิจัยชิ้นนี้มีอะไรใหม่?
จากการศึกษาแบบ cross-over trial โดย Physicians Committee for Responsible Medicine ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Nutrition:
ผู้ร่วมทดลอง 62 คน (น้ำหนักเกิน) ทำการทดลอง 2 แบบ:
แบบที่ 1: กินอาหาร เมดิเตอเรเนียน (Mediterranean Diet)
แบบที่ 2: กินอาหาร วีแกนไขมันต่ำ (Low-Fat Vegan Diet)
ระยะเวลา: 16 สัปดาห์ ต่อแต่ละประเภท (มีช่วงพักล้างระบบ 4 สัปดาห์ระหว่างกลาง)
ผลลัพธ์: วีแกนชนะขาด
คนที่กิน วีแกนไขมันต่ำ:
-น้ำหนักลดเฉลี่ย 13.2 ปอนด์ (≈ 6 กิโลกรัม)
-คะแนนกรดในอาหาร (PRAL และ NEAP) ลดลงชัดเจน
-คนที่กินแบบเมดิเตอเรเนียน:
-น้ำหนักไม่เปลี่ยนแปลง
-ค่าความเป็นกรดไม่ลด
กล่าวคือ อาหารแบบ วีแกนไขมันต่ำสามารถลดความเป็นกรดในร่างกายได้มากกว่า ซึ่งสัมพันธ์กับการลดน้ำหนักอย่างมีนัยสำคัญ
ทำไม “อาหารกรดต่ำ” ถึงช่วยลดน้ำหนักได้?
ลดกรด = ลดการอักเสบระดับเซลล์
→ ช่วยให้ระบบเผาผลาญกลับมาทำงานได้ดีขึ้น
เปลี่ยน microbiome ในลำไส้
→ ส่งผลต่อฮอร์โมนความหิว ความอิ่ม และการดูดซึมไขมัน
หลีกเลี่ยงโปรตีนสัตว์ที่กระตุ้นการสะสมกรด
เช่น เนื้อวัว หมู ไข่ ชีส ฯลฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นกรดในปัสสาวะและเลือด
อาหารที่ช่วย “ลดกรด” (Alkaline foods)
ผักใบเขียว: ผักโขม, คะน้า, บร็อคโคลี่
ผลไม้รสเปรี้ยวอมหวาน: เชอร์รี่, แอปเปิ้ล, แคนตาลูป
ถั่วและพืชตระกูลถั่ว: ถั่วลูกไก่, ถั่วดำ, ถั่วเหลือง
ธัญพืชเต็มเมล็ด: ควินัว, ลูกเดือย
ปรับแค่ 3–4 อย่างนี้ในมื้อหลัก ก็ช่วยลดค่า PRAL และ NEAP ได้จริง
“กรดในอาหาร” เป็นหนึ่งในปัจจัยซ่อนเร้นที่ เพิ่มการอักเสบ–น้ำหนัก–ความเสี่ยงโรคเรื้อรัง
อาหารวีแกนไขมันต่ำ = ลดกรด + ลดน้ำหนัก
งานวิจัยนี้แสดงว่าแค่ เปลี่ยนแหล่งโปรตีนและไขมัน ก็เปลี่ยนร่างกายได้ภายในไม่กี่สัปดาห์