ทำไม “อากาศชื้น” ถึงอันตรายกว่าที่คิด?By The SciClinist / 27/06/2025 ไม่ใช่แค่ “ร้อน” อย่างเดียวที่ทำให้ร่างกายล้มได้… “ความชื้นในอากาศ” ต่างหากที่ทำให้ระบบระบายความร้อนในร่างกายรวน — และอาจถึงตายได้แบบไม่รู้ตัว เหงื่อ = แอร์ธรรมชาติของมนุษย์ แต่เมื่ออากาศชื้นจัด ร่างกายจะ เหงื่อออกได้ช้าลงความร้อนภายในระบายไม่ทัน = อุณหภูมิแกนกลางร่างกาย (core temp) พุ่งสูงจนเป็นอันตรายร่างกายเราควรอยู่ที่ประมาณ 98.6°F หรือ 37°Cถ้าร้อนจัดแล้วเหงื่อระบายไม่ออก = เสี่ยง ลมแดด (Heat Stroke) "Wet-Bulb Temperature" คืออะไร? เป็นค่าที่ใช้วัด ความอันตรายของความร้อน + ความชื้นนักวิทยาศาสตร์พบว่า…ถ้า “Wet-Bulb Temp” ถึง 35°C (95°F) และสัมผัสนาน 6 ชั่วโมง แม้แต่คนแข็งแรงก็อาจเสียชีวิตได้ประเทศที่เคยแตะระดับนี้แล้ว เช่น อินเดีย, ตะวันออกกลาง, ชายฝั่งเม็กซิโก-อเมริกางานวิจัยล่าสุดยังพบว่า จุดอันตรายจริง ๆ อาจต่ำกว่านั้น แล้วแต่เพศ อายุ โรคประจำตัว และความเคยชินของคนในพื้นที่ แล้วเราควรดูอะไรในแอปพยากรณ์อากาศ? ให้ดูที่ค่า Heat Index หรือ “Feels Like” (อุณหภูมิที่รู้สึกจริงบนผิวหนัง)ถ้าอยู่ในช่วง 103°F–124°F (39.4–51°C) = เขตอันตรายแนวโน้มเกิด “ตะคริวแดด” หรือ “หมดแรงเพราะร้อน” สูงมาก วิธีเอาตัวรอดจากความชื้นร้อน อยู่ในห้องแอร์เท่าที่ทำได้ดื่มน้ำมาก ๆ (แม้ไม่กระหาย)อาบน้ำเย็นงดกิจกรรมกลางแจ้ง หรือออกกำลังกายช่วงแดดแรงถ้ามีโรคหัวใจ ความดัน หรือเป็นผู้สูงอายุ/เด็กเล็ก = ยิ่งต้องระวังอากาศชื้น ทำให้ต้องระวังเร็วกว่า “อากาศแห้ง”เพราะร่างกายไม่มีเวลาระบายความร้อนให้ทัน คนละเมือง คนละผลคนซีแอตเทิล (เมืองอากาศเย็น) จะทนร้อนชื้นได้น้อยกว่าคนแอตแลนตา (เมืองร้อนชื้น)นี่คือสิ่งที่เรียกว่า “ภูมิคุ้มกันสภาพอากาศ” (Climate Acclimatization)“ความชื้น” เป็นศัตรูเงียบของร่างกายยิ่งยุคที่โลกร้อนขึ้น อากาศผันผวนอย่ามองแค่ตัวเลขอุณหภูมิ จงดูว่า “รู้สึกยังไง” แล้วอย่าให้ร่างกายอยู่ในเขตอันตรายนานเกินไป