เข้าใจใหม่ “ดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน” ไม่ได้เหมาะกับทุกคน!

เข้าใจใหม่เรื่องการดื่มน้ำให้เหมาะกับตัวคุณ
เคยได้ยินไหมว่า “ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว” แล้วจะดีต่อสุขภาพ?

จริงๆ แล้วสูตรนี้ ไม่ใช่กฎตายตัว เพราะร่างกายแต่ละคนมีความต้องการน้ำแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับอายุ เพศ กิจกรรมที่ทำ สภาพอากาศ และสุขภาพของแต่ละคนด้วย

ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน (รวมจากทุกแหล่ง: น้ำเปล่า อาหาร เครื่องดื่ม) ตามรายงานของ U.S. National Academies of Sciences, Engineering, and Medicine

ทารก 6–12 เดือน
1/2 ถึง 1 ถ้วย (120–240 มล.) ต่อวัน

เด็ก
1–5 ถ้วย + นมอีก 2–3 ถ้วย

วัยรุ่น
7–8 ถ้วย (1.6–1.9 ลิตร)

ผู้ใหญ่ชาย
15.5 ถ้วย (ประมาณ 3.7 ลิตร)

ผู้ใหญ่หญิง
11.5 ถ้วย (ประมาณ 2.7 ลิตร)

หญิงตั้งครรภ์
8–12 ถ้วย (2–3 ลิตร)

หญิงให้นมบุตร
16 ถ้วย (ประมาณ 3.8 ลิตร)

ผู้สูงวัย
13 ถ้วย (ชาย) / 9 ถ้วย (หญิง)

หมายเหตุ: ปริมาณนี้รวมถึงน้ำจากอาหาร น้ำผลไม้ ซุป หรือแม้แต่น้ำจากผักผลไม้

ถ้าออกกำลังกาย ต้องดื่มน้ำเพิ่มอย่างไร?

คำแนะนำจาก American Council on Exercise:
2–3 ชั่วโมงก่อนออกกำลังกาย: ดื่ม 500–600 มล.

20–30 นาทีก่อนเริ่ม: ดื่ม 240 มล.

ระหว่างออกกำลังกาย: ดื่ม 200–300 มล. ทุก 10–20 นาที

หลังออกกำลังกาย: ดื่มอีก 240 มล. ภายใน 30 นาที

หากออกกำลังกายนานเกิน 60–90 นาที หรือต่อเนื่องกลางแจ้ง แนะนำให้เติม เกลือแร่ (Electrolytes) เช่นโซเดียม โพแทสเซียม คาร์โบไฮเดรต เพื่อป้องกันภาวะขาดเกลือแร่หรือ “Hyponatremia”

น้ำ = ชีวิต (จริงๆ) การดื่มน้ำที่เพียงพอช่วยให้:

ควบคุมอุณหภูมิร่างกายและความดันโลหิต
ช่วยให้ข้อไม่ฝืด เคลื่อนไหวลื่นไหล
ป้องกันนิ่วในไต ท้องผูก และติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ผิวดูชุ่มชื้น สุขภาพดี
สมองทำงานดี ความจำดี อารมณ์ดี

ดื่มมากไปก็ใช่ว่าจะดีเสมอ

หากดื่มน้ำมากเกินไปในเวลาสั้นๆ โดยเฉพาะในคนที่มีปัญหาไต ตับ หัวใจ หรือกินยาที่ทำให้บวมน้ำ เช่น ยาต้านอักเสบ ยากล่อมประสาท → เสี่ยง “Hyponatremia” (โซเดียมในเลือดต่ำ) ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top