Uncategorized

รู้หรือไม่ว่า… ปลาร้าอีสานของไทยก็มีโพรไบโอติกส์ ไม่แพ้โยเกิร์ต กิมจิ หรือคอมบูชา

ในยุคที่คนทั่วโลกตื่นตัวกับเรื่อง Gut Health (สุขภาพลำไส้) และจุลินทรีย์ดีอย่าง Probiotics กลายเป็นคำฮิตในวงการสุขภาพและความงาม…คนไทยหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า…  “ปลาร้า” ที่เรากินกับส้มตำ หรือแซ่บกับข้าวเหนียวร้อน ๆ เนี่ยแหละ คืออาหารที่มี โปรไบโอติกจากธรรมชาติ แบบบ้าน ๆ ที่เวิร์กสุด ๆ  มีงานวิจัยรองรับ: ปลาร้าดีจริง ไม่ได้โม้นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น และจุฬาลงกรณ์ฯ ได้ศึกษาจุลินทรีย์ในปลาร้า พบว่า: มีจุลินทรีย์กลุ่ม Lactic Acid Bacteria โดยเฉพาะ Lactobacillus plantarum, Lactobacillus fermentum จุลินทรีย์เหล่านี้มีคุณสมบัติในการ: เพิ่มความหลากหลายของจุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiota Diversity)  กระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว  ช่วยเรื่องการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก ท้องอืด  ส่งผลดีต่ออารมณ์ ผ่านการเชื่อมโยงของลำไส้กับสมอง (Gut–Brain Axis) แม้ในต่างประเทศจะยังพูดถึงแต่กิมจิ คอมบูชา หรือโยเกิร์ต… แต่ “ปลาร้า” ไทยก็มีสารพัดคุณไม่แพ้กัน!  ปี 2025: เทรนด์ใหม่ไม่ใช่แค่กินคลีน แต่ต้อง “กินหมัก”  ในปีนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและสุขภาพทั่วโลกพูดถึงคำว่า Fermented Food มากขึ้น เช่น: คอมบูชา = Probiotic Drink ของสายซอฟต์ นัตโตะ = อาหารหมักจากญี่ปุ่น กิมจิ = ราชาโปรไบโอติกส์จากเกาหลี แต่ปลาร้า = “โพรไบโอติกสายไทย” ที่ยังไม่แมส  เทรนด์ปี 2025 เริ่มพูดถึงการเอา ภูมิปัญญาอาหารพื้นบ้าน กลับมาใช้เพื่อสุขภาพและปลาร้าคือ Hidden Gem ของอาหารหมักที่มีทั้ง รสชาติ และ คุณค่า  คำแนะนำในการกินปลาร้าให้ได้โพรไบโอติกส์กิน “ปลาร้าดิบ” ที่สะอาด ปรุงสด หรือหมักเองแบบอนามัย หากต้องต้ม ควรต้มแค่พอร้อน ไม่เดือดจัด เพื่อรักษาจุลินทรีย์ดีไว้บางส่วน ควรเลือกผลิตภัณฑ์จากโรงงานที่มีมาตรฐาน GMP / HACCP ไม่ควรบริโภคเกินวันละ 2–3 ช้อนโต๊ะ เพื่อควบคุมโซเดียม